งานแถลงข่าวการจัดงานเทศกาลเงาะโรงเรียนนาสาร (GI) สุราษฎร์ธานี ครั้งที่ 33 ประจำปี พ.ศ. 2568

🗓️ วันที่ 24 มิถุนายน 2568

 ✅ เทศบาลเมืองบ้านนาสาร จัดงานแถลงข่าวการจัดงานเทศกาลเงาะโรงเรียนนาสาร (GI) สุราษฎร์ธานี ครั้งที่ 33 ประจำปี พ.ศ. 2568 ระหว่างวันที่ 3-14 กรกฎาคม 2568 ณ สวนสาธารณะ แหล่งกำเนิดเงาะนาสาร โรงเรียนเทศบาลเมืองนาสาร อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดย นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี มอบหมายให้นายวิทศักดิ์ จำเริญนุสิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานการแถลงข่าวการจัดงานเทศกาลเงาะโรงเรียนนาสาร (GI) สุราษฎร์ธานี ครั้งที่ 33 ประจำปี พ.ศ. 2568 ร่วมกับนายอุทัย เทือกสุบรรณ นายอำเภอบ้านนาสาร นายชัยพร นุภักดิ์ เกษตรจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายสมชาย เสมมณี ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสุราษฎร์ธานี นางทัศนียาพร ดวงแก้ว ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี  พ.ต.อ.วรวิทย์  เจริญศุภผล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอบ้านนาสาร และนายชโนวิทก์ ตู้บรรเทิง นายกเทศมนตรีเมืองนาสาร  โดยมีผู้นำชุมชน สื่อมวลชน และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมจำนวนมาก 

 ✅ สำหรับที่มาของการจัดงานในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์
 1. เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ให้สามารถปรับตัวไปสู่วิถีแห่งการท่องเที่ยวยุคใหม่ 
 2. เพื่อเผยแพร่ชื่อเสียงของดีเมืองนาสารให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย  
 3. เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจภาคการเกษตร ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกเงาะนาสารและผลไม้ประเภทอื่นได้พัฒนาผลผลิตให้มีคุณภาพที่ดี เป็นที่นิยมของผู้บริโภคทั้งภายในประเทศและต่างประเทศรวมทั้งเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการให้แก่เกษตรกรอีกด้วย  
 4. เพื่อสืบทอด ส่งเสริม สร้างความภาคภูมิใจในวิถีชีวิตชุมชน การอนุรักษ์ฟื้นฟู รักษาวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นที่มีการจัดงานขึ้นมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน รวมถึงการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ให้คงอยู่ และเพื่อสร้างความรัก ความสามัคคี ความสมานฉันท์ ความปรองดอง ตลอดจนการมีส่วนร่วมของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน

   🍀 ทั้งนี้ งานเทศกาลเงาะโรงเรียนนาสาร (GI) สุราษฎร์ธานี ครั้งที่ 33 ประจำปี 2568 มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3 – 14 กรกฎาคม 2568 เป็นเวลา 12 วัน 12  คืน ณ ริมคลองฉวาง อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวและการจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรตลอดงาน เพื่อสร้างรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นอย่างยั่งยืน